กำจัดขนเพื่อผิวเรียบเนียน รู้และทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจลงมือทำ
การกำจัดขนมีมานานตั้งแต่โบราณ เรียกได้ว่ามีตั้งแต่สมัยยุคมนุษย์ถ้ำที่มีการนำเปลือกหอยมาใช้แทนแหนบ หรือในยุคโรมันโบราณที่เริ่มมีวิวัฒนาการทางความคิดมากขึ้น การได้มีการนำหินเหล็กไฟมาทำมีดโกนสำหรับกำจัดขนที่ไม่พึงประสงค์ เพื่อให้ได้ผิวและรูปลักษณ์ที่เรียบเนียนชวนน่าสัมผัสและสุขภาพดี จวบจนถึงปัจจุบันการกำจัดขนก็ได้มีมากมายมากยิ่งขึ้นตามเทคโนโลยีที่พัฒนาไป ทั้งในแง่การกำจัดขนแบบชั่วคราวและถาวร
แต่การจะเลือกวิธีการกำจัดขนที่เหมาะสมต้องพิจารณาจากหลายๆ อย่าง เนื่องจากเทคโนโลยีที่ถูกปรับเปลี่ยนไป การทำบราซิลเลี่ยนแว็กซ์ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ในยุคปัจจุบัน หรือวิธีการกำจัดขนถาวร เช่น เลเซอร์หรืออิเล็กโทรไลซิส อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดในอนาคต นอกจากนี้การกำจัดขนเพื่อให้มีประสิทธิภาพนั้นจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพของขน ลักษณะของผิวหนัง ต่อมไขมันและกล้ามเนื้ออีเร็คเตอร์พิลิ รวมถึงระยะเวลาที่ต้องการทำ พันธุกรรม ฮอร์โมนควบคู่ไปด้วย ดังนั้น สิ่งสำคัญของการเลือกกำจัดขนจำเป็นต้องมีการปรึกษาหารือก่อนทำบริการกำจัดขน เพื่อให้ได้วิธีการที่หลีกเลี่ยงผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์อย่างอาการระคายเคืองและความรู้สึกไม่สบาย และให้ผลลัพธ์การกำจัดขนนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
มาทำความเข้าใจการกำจัดขนแต่ละวิธีเพื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียกันดีกว่า
- วิธีการแว็กซ์ : โดยวิธีนี้จะเป็นการอุ่นแว็กซ์ทาบริเวณที่ต้องการกำจัดขน ก่อนจะลอกออก ซึ่งวิธีนี้
เป็นการแว็กซ์เกี่ยวข้องกับการเอารากขนออกจากรูขุมขนได้ทั้งหมด
ข้อดี : วิธีนี้สามารถทำได้กับหลากหลายส่วนต่างๆ ของร่างกาย และถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ราคาไม่แพง สามารถทำเองได้ที่บ้าน และมีประสิทธิภาพดีหากเทียบกับวิธีการกำจัดขนชั่วคราวแบบอื่นๆ เพราะหลังจากแว็กซ์อย่างต่อเนื่อง 4-5 ครั้ง โดยที่ไม่มีการโกนหรือถอนขนระหว่างนั้น เส้นขนในบริเวณที่ได้รับการแว็กซ์นั้นจะเริ่มขึ้นอย่างนุ่มและบางลงอย่างเห็นได้ชัด
ข้อเสีย : การแว็กซ์อาจจะไม่สามารถกำจัดขนได้หมดในครั้งเดียว และแว็กซ์บางชนิดอาจเกาะติดกับผิวหนังและทำให้เกิดอาการแสบเมื่อทำการดึงออก นอกจากนี้การแว็กซ์ในแต่ละครั้งต้องปล่อยทิ้งให้ความยาวขนมีความยาวอย่างน้อยครึ่งนิ้วจึงจะสามารถทำการแว็กซ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วิธีใช้แหนบ : ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการกำจัดขนที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และทำได้ง่าย
ข้อดี : วิธีนี้สามารถกำจัดขนในบริเวณใบหน้า หรือ บริเวณพื้นผิวที่ยากต่อการกำจัดขน
ข้อเสีย : ต้องใช้เวลากำจัดขนค่อนข้างนาน และมีโอกาสที่จะทำให้ขนที่งอกขึ้นมาใหม่จากการถอนขนด้วยแหนบนั้นมีความแข็งและหนาขึ้น อีกทั้ง หากเลือกใช้แหนบที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสมก็อาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อด้วยเช่นกัน
- วิธีใช้ครีมกำจัดขน : โดยตัวครีมนั้นมีสารออกฤทธิ์หลักอย่างกรดไธโอไกลโคลิก ร่วมกับส่วนผสมอื่นๆ ที่จะเข้าไปทำลายเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนตามธรรมชาติในเส้นผม หลังจากทาครีมกำจัดขนในบริเวณผิวที่ต้องการกำจัดแล้วทิ้งไว้สักครู่ เส้นจนจะหลุดร่วงและสามารถเช็ดออกได้ทันที
ข้อดี : วิธีนี้สามารถทำได้ง่าย เพียงแค่ทา รอ และล้างผลิตภัณฑ์ออกตามเวลาที่ระบุไว้ในคำแนะนำ
ข้อเสีย : เป็นส่วนประกอบของสารเคมีที่อาจจะทำให้เกิดการแพ้ได้ รวมถึงกลิ่นเห็นไหม้จากการที่ครีมทำปฏิกริยากับเส้นขน นอกจากนี้อาจจะมีอาการผิวหนังไหม้ได้หากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป ทั้งนี้ ขนที่ถูกกำจัดนั้นไม่ได้ยังหลงเหลือรากขนทำให้เส้นขนยังสามารถกลับมายาวได้เหมือนเดิมภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์
- วิธีโกนด้วยมีดโกน : หนึ่งในวิธีสุดคลาสสิคที่หลายคนเลือกใช้ เพราะ สามารถทำได้ง่ายๆ ใช้เวลาน้อย โดยในปัจจุบันได้มีการออกแบบมีดโกนออกมาอย่างหลากหลายเพื่อตอบโจทย์การกำจัดขนแบบเฉพาะจุดมากที่สุด
ข้อดี : การโกนนั้นง่าย ค่อนข้างเร็ว ราคาไม่แพง และไม่เจ็บปวด หากทำอย่างถูกต้อง
ข้อเสีย : การโกนขนนั้นให้ผลลัพธ์การกำจัดขนที่สั้นที่สุด นอกจากนี้ขนที่ขึ้นมาใหม่นั้นจะดูหนาและเข้มยิ่งขึ้นและมีแนวโน้มที่จะมีขนคุดขึ้นในช่วงระยะเวลาการงอกใหม่ จนทำให้เกิดการระคายเคืองและคันได้
- วิธีเลเซอร์ : เมื่อเทคโนโลยีได้รับการพัฒนาการใช้เลเซอร์เพื่อกำจัดขนก็ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยจะเป็นการใช้เลเซอร์ทำลายรูขุมขนซึ่งยับยั้งการเจริญเติบโตในอนาคต ซึ่งเลเซอร์จะทะลุผ่านเนื้อเยื่อผิวหนังได้อย่างปลอดภัยและถูกดูดซึมโดยเมลานิน (เม็ดสี) ภายในเส้นผม การดูดซึมทำให้เกิดความเสียหายต่อรูขุมขนและทำลายรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะต้องทำเลเซอร์ต่อเนื่อง 4-8 ครั้ง โดยเว้นระยะทุกๆ 3-4 สัปดาห์ เพื่อให้มีการกำจัดขนอย่างถาวร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทผมและสภาพผิว
ข้อดี : ไม่ต้องรอให้ขนยาวมากพอที่จะทำการเลเซอร์เหมือนกับการแว็กซ์ หรือการถอนขนอื่นๆ จึงทำให้ผิวเรียบเนียนตลอด และหากทำอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ขนบริเวณนั้นลดลงจดไม่กลับมาขึ้นอีกได้
ข้อเสีย : การทำเลเซอร์มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และการเลือกคลินิคและช่างทำเลเซอร์ต้องมีความระมัดระวังอย่างมาก หากทำการเลเซอร์โดยช่างเทคนิคที่ไม่ได้รับการฝึกฝน อาจมีความเสี่ยงเกิดรอยแผลเป็นและแผลไหม้จากการใช้เลเซอร์อย่างไม่เหมาะสม
- วิธี electrolysis : เป็นเทคโนโลยีที่อาศัยการใช้เข็มสอดลงไปที่รากขนทีละเส้นแล้วปล่อยกระแสไฟฟ้าทำลายรากขนอย่างตรงจุด แล้วใช้แหนบคีบขนออกมา
ข้อดี : เป็นการกำจัดที่เห็นผลได้ชัดเจนและยาวนาน เมื่อเทียบกับวิธีการกำจัดขนอื่นๆ
ข้อเสีย : กระบวนการทำใช้เวลาค่อนข้างนานต่อหนึ่งครั้ง และ มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเช่นเดียวกับการทำเลเซอร์ อีกทั้งยังมีโอกาสเกิดการเปลี่ยนสีผิวได้หากไม่ดำเนินการอย่างเหมาะสม
หากคุณต้องการกำจัดขนอย่างถาวร ลองเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียเหล่านี้ เพื่อให้คุณ”ด้ผลลัพธ์เป็นผิวเรียบเนียนตรงใจกันดูนะ
ที่มา : https://www.americanspa.com/skincare/pros-cons-7-hair-removal-treatments