แก้ปัญหาผิวด้วยการกิน เลือกสรรเมนูอร่อยแก้ไขปัญหาผิวของคุณกัน

“you are what you eat” เป็นประโยคที่ไม่ได้หมายถึงเพียงอาหารที่ส่งผลต่อรูปร่าง แต่ยังรวมถึงสุขภาพกายและสุขภาพผิวอีกด้วย เพราะผิวของเรานั้นจะสะท้อนถึงสุขภาพโดยรวมของเรา และ อาหารที่ทานเข้าไปอย่างมีนัยสำคัญ การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยผลไม้ ผัก โปรตีนไม่ติดมัน และไขมันที่ดีต่อสุขภาพจะทำให้คุณสุขภาพผิวที่ดี แต่ในทางกลับกัน การบริโภคอาหารแปรรูป ขนมขบเคี้ยวที่มีน้ำตาล นมและเนื้อสัตว์ในปริมาณที่มากเกินไปสามารถนำไปสู่ปัญหาผิว เช่น สิว ความหมองคล้ำ ริ้วรอยรอบดวงตา และการอักเสบได้ เห็นได้ชัดเจนเลยว่าอาหารมีผลต่อผิวกว่าที่คิด

นอกจากอาหารบางอย่างจะส่งผลเสียต่อผิวแล้ว อาหารบางอย่างก็ส่งผลดีต่อผิวเช่นกัน เพราะบางครั้งที่ผิวได้รับ ความเสียหายจากอนุมูลอิสระจากสภาพแวดล้อมเช่นแสงแดด มลพิษหรืออาหารบางอย่างที่ทานเข้าไปจนทำให้เกิดการอักเสบที่ทำลายคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวหนังบาง เหี่ยวย่น และเป็นรอย รวมถึงเป็นสิวและปัญหาผิวอื่นๆ  อาหารจำพวกโปรตีนไม่ติดมัน, ไฟเบอร์สูง, ผักผลไม้สด และเครื่องเทศ จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการทำให้ผิวกลับมามีสุขภาพดี

ดังนั้น..หากคุณอยากเลือกทานอาหารเพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวลองเลือกทานตามนี้กันดู

ปัญหาสิว : หนึ่งในสุดยอดอาหารสำหรับผิวที่เป็นสิวง่ายคือ ผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า และบรอกโคลี เพราะ ผักเหล่านี้มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินสูง ซึ่งช่วยต่อสู้กับการอักเสบและป้องกันการเกิดสิว และในส่วนของเนื้อสัตว์ควรเลือกทานเนื้อประเภทปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล และปลาซาร์ดีน เพื่อช่วยลดการอักเสบและเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวหนัง และอาจปิดท้ายด้วยการผลไม้ประเภทเบอร์รี่ พร้อมด้วยโยเกิร์ตสักถ้วย เพื่อต่อต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบของผิว

ปัญหาผิวมัน : หากคุณมีผิวมัน อาหารที่มีวิตามินเอเป็นสิ่งที่คุณควรมองหา เพราะวิตามินเอจะช่วยควบคุมการผลิตซีบัมซึ่งเป็นน้ำมันที่คอยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม แต่โดยส่วนใหญ่คนผิวมันมักจะมีการผลิตซีบัมมากเกินไปนั่นเอง ซึ่งวิตามินเอสามารถช่วยป้องกันความมันส่วนเกินและปรับสมดุลการผลิตซีบัม โดยอาหารที่มีวิตามินเอสูงได้แก่ ผักใบเขียว แครอท และมันเทศ รวมถึงมันหวาน

ปัญหาผิวโทรมคล้ำเสีย : ผักและผลไม้หลากสีสันกับไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ถั่วและธัญพืช เป็นความอร่อยที่ควบรวมสารอาหารสำคัญที่ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของความแก่ชราของผิว ทั้งในแง่ริ้วรอยและความหมองคล้ำ โดยผักผลไม้ที่แนะนำให้ควรมีในมื้ออาหารคือมะเขือเทศสด เพราะ ไลโคปีและแคโรทีนอยด์ในมะเขือเทศมีคุณสมบัติในการต้านสารอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและดูอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ในมะเขือเทศยังมีความสามารถในการต้านการอักเสบช่วยลดการระคายเคืองของผิวหนัง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับลดโอกาสการเกิดริ้วรอย

ปัญหาผิวแห้ง : สาเหตุของผิวแห้งคือสมดุลของน้ำไม่เพียงพอ เนื่องจากขาดน้ำและไขมันดี ดังนั้นการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวคือกุญแจสำคัญในการช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียนชุ่มชื้นอีกครั้ง นอกเหนือจากการดื่มน้ำเป็นประจำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว และเลือกทานอาหารที่อุดมด้วยไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ปลาแซลมอน วอลนัท และเมล็ดแฟลกซ์ เพื่อให้ร่างกายนำกรดไขมันโอเมก้า 3 ดูแลผิวให้อ่อนนุ่มและมีสุขภาพดี นอกจากนี้ การทานผักและผลไม้ที่มีปริมาณน้ำสูง เช่น แตงกวา ขึ้นฉ่ายฝรั่ง แตงโม และมะเขือเทศ ก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน

ปัญหาผิวระคายเคือง บอบบาง : สาเหตุของผิวที่ระคายเคืองจนเกิดรอยแดงอาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ มากมาย เช่น กลาก ผิวหนังอักเสบ หรือแพ้อาหาร แต่ตัวช่วยที่จะทำให้ผิวเหล่านั้นดีขึ้นคือการปรับสมดุลจากลำไส้ เพราะ ความไม่สมดุลของลำไส้ทำให้เกิดการตอบสนองการอักเสบ ซึ่งนำไปสู่รอยแดง การระคายเคือง และสิวได้ ลองเพิ่มเติมโปรไบโอติกให้กับร่างกายผ่านอาหารหมัก เช่น โยเกิร์ต มิโซะ กะหล่ำปลีดอง และกิมจิ เพื่อปรับสมดุลให้กับลำไส้ลดการอักเสบที่อาจเกิดขึ้นได้

แม้ว่าจะไม่มีอาหารชนิดใดที่สามารถรับประกันว่าคุณจะได้มีผิวที่สมบูรณ์แบบ แต่การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและสมดุลสามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพผิวและป้องกันการแก่ก่อนวัยได้อย่างแน่นอน สิ่งสำคัญคือต้องสม่ำเสมอในการเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่ช่วยบำรุงและ ต้านการอักเสบ และอนุมูลอิสระ ควบคู่กับสังเกตว่าอาหารแบบไหนที่ส่งผลกระทบต่อผิวของคุณ และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือต้องรักษาความชุ่มชื้นด้วยการดื่มน้ำมากๆ และจำกัดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน ซึ่งจะทำให้ผิวขาดน้ำได้

วันนี้กินอะไรดีนะ

ที่มา :

https://www.allure.com/story/superfoods-glowing-skin

https://www.realsimple.com/health/nutrition-diet/healthy-eating/best-foods-for-dry-skin

https://www.weleda.com.au/magazine/health/dry_skin_6_nutritional_strategies